ไทยเดินหน้าเปิดประเทศ แต่ชาวจีนจะมาหรือ?

เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงตั้งเป้าหมายเปิดประเทศภายในเวลา 120 วันเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยงชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วโดยไม่ต้องกักตัว เป็นการตั้งเป้าที่ชัดเจนให้ผู้ประกอบการต่างๆ มีความหวัง และเป็นการกระตุ้นความพร้อมทุกภาคส่วนในการเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

นายกฯ ประกาศเปิดประเทศในอีก 120 วัน ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 50 ล้านคน เมื่อวันที่ วันที่ 16 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา

แถลงการ นายกฯ ประกาศเปิดประเทศในอีก 120 วัน ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 50 ล้านคน

ภาคการท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สามารถสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศกว่า 3 ล้านล้านบาทต่อปี โดยเกือบ 2 ล้านล้านบาทของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดต่อปีคือชาวจีน แน่นอนข่าวแผนการเปิดประเทศย่อมสร้างความตื่นเต้นให้กับชาวจีนไม่ใช่น้อย เรามาดูความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตจีนว่าคิดอย่างไรกับการที่เขาจะมีโอกาศได้มาเที่ยวเมืองไทยในเดือนตุลาคมนี้

Photo by Markus Winkler

รัฐบาลจีนมีมาตรการคัดกรองคนเข้าประเทศที่เข้มงวดมาก หลายมณฑลยังบังคับใช้นโยบายกักตัว 14+7+7 อย่างเข้มงวด กล่าวคือ กักตัวกับทางการ 14 วัน (ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด) + แยกกักตัวที่บ้าน 7 วัน + เฝ้าติดตามสุขภาพ 7 วัน ในระหว่างกักตัวมีการตรวจหาเชื้ออย่างน้อย 4 ครั้ง ถึงแม้จะมีมาตรการที่รัดกุมขนาดนี้ แต่จีนก็ยังมีผู้ติดเชื้อที่สามารถเล็ดลอดการคัดกรองไปได้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในชุมชน 

และด้วยมาตรการกักตัวที่เข้มงวดนี้เอง การเดินทางออกนอกประเทศแต่ละครั้งต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วน ว่าจะคุ้มกับการที่ต้องกลับมากักตัวและเฝ้าระวังเป็นระยะเวลาเกือบ 1 เดือนหรือไม่ อีกทั้งการจะกลับเข้าประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นคนจีนหรือชาวต่างชาติ มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยาก ผู้ประสงค์เดินทางเข้าจีนต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นผลลบและตรวจหาปริมาณภูมิต้านทานโควิด-19 ไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และต้องจะนำผลตรวจไปขอ QR Code สีเขียวจากสถานทูตจีนในประเทศต้นทาง ถึงจะสามารถเช็คอินขึ้นเครื่องบินเข้าจีนได้ 

การตัดสินใจประกาศเปิดประเทศของรัฐบาลไทย เป็นความพยายามที่จะพยุงเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้  โดยหวังว่าแผนผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวรวมถึงนักลงทุนให้นำเม็ดเงินเข้ามาเติมระบบเศรษฐกิจไทยได้ แต่ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อของไทยยังอยู่ในหลักพันแบบทุกวันนี้ไปเรื่อยๆ โอกาสที่ชาวจีนจะมาเที่ยวและเสี่ยงติดเชื้อ ก็คงลดน้อยลงอย่างมาก เพราะสุดท้ายเที่ยวในประเทศตัวเองที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดและมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่าหนึ่งพันล้านโดสย่อมสบายใจกว่ากันเยอะ!

Photo by Mr.Autthaporn Pradidpong