ในขณะที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019หรือ COVID-19 ยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลก และหลังจากที่องค์การอนามัยโลกได้ประกาศการแพร่ระบาดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศจนทำให้หลายประเทศได้ออกคำสั่งห้ามเดินทางไปยังประเทศจีนแล้วนั้น ประเทศไทยเองไม่เพียงแต่ไม่ได้ใช้มาตรการใด ๆ ในการจำกัดวีซ่าและการเข้าเมืองเท่านั้น แต่ยังประกาศอย่างอบอุ่นว่าจะรับภาระค่ารักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ทุกสัญชาติ รวมไปถึงจะไม่มีค่าปรับนักท่องเที่ยวจีนที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้ที่อยู่ไทยเกินกว่าวีซ่ากำหนด ทำไมรัฐบาลไทยถึงมีความมั่นใจขนาดนี้? หรือว่าการแพทย์ไทยมีระบบการป้องกันการแพร่ระบาดที่ล้ำสมัย?
จากรายงานของ ดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพโลก 2019 ประเทศไทยได้คะแนนสูงถึง 73.2 คะแนน จาก 100 คะแนนจากตัวชี้วัดด้านต่างๆ จัดอยู่อันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศทั่วโลก เป็นรองสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลียและแคนาดา ตามลำดับ แต่ในภูมิภาคเอเชียนั้น ไทยเป็นอันดับหนึ่ง
ด้านระบบสุขภาพที่เข้มแข็งและมั่นคงไทยมาเป็นอันดับ 2 ด้านการป้องกันโรค ไทยมาเป็นอันดับ 3 และด้านการตอบโต้และบรรเทาผลกระทบของโรคระบาด ไทยถูกจัดอยู่ที่ลำดับที่ 5 ส่วนด้านความสามารถในการตรวจจับโรคและรายงาน ไทยก็อยู่แถวหน้าของโลก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศไทยมีการยืนยันกรณีโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกเร็วกว่าประเทศอื่นในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ระบบความมั่นคงด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
การรับมือของไทยกับสถานการณ์ไวรัสโคโรน่ารวมถึงการแสดงมิตรภาพที่ดีต่อจีนทำให้ไทยได้รับการชื่นชมจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก ชาวจีนซาบซึ้งในน้ำใจคนไทยที่แสดงออกเปรียบเหมือนไทยจีนเป็นครอบครัวเดียวกัน หลังผ่านวิกฤติครั้งนี้ ก็อย่าลืมมาเที่ยวเมืองไทยกันเยอะ รวมถึงมาตรวจสุขภาพเพื่อสัมผัสความล้ำสมัยของการแพทย์ในไทย
