ททท. ประกาศเปิดปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ยกทัพเสน่ห์ไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ในงาน ITB Berlin 2025
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำผู้ประกอบการไทยกว่า 160 ราย จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเข้าร่วมงาน Internationale Tourismus Borse (ITB) Berlin 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2568 ณ Berlin ExpoCenter City กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอศักยภาพทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก โดยมีเป้าหมายหลักในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงจากทั่วโลกที่มีกำลังซื้อสูงและมีระยะเวลาพำนักในประเทศไทยนาน
งาน ITB Berlin ถือเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก โดยมีการจัดงานขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2509 และในปี 2568 เป็นการจัดงานครั้งที่ 58 และในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เข้าร่วมงานเป็นครั้งที่ 50 ซึ่งในปีนี้ ททท. ได้ขยายพื้นที่คูหาของประเทศไทยจาก 540 ตามรางเมตรเป็นพื้นที่ 1,820 ตารางเมตร หรือโดยประมาณ 1 Hall ของงาน เพื่อรองรับการประกาศปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 และเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย Ignite Tourism Thailand ซึ่งมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในระดับโลก โดยมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานประมาณ 160 ราย ซึ่งแบ่งเป็น โรงแรมที่พักร้อยละ 88, บริษัทจัดการท่องเที่ยวร้อยละ 8 และผู้ประกอบการอื่น ๆ ร้อยละ 4 ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้มีโอกาสพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจากทั่วโลก เพื่อสร้างและขยายเครือข่ายการท่องเที่ยวไปสู่ตลาดใหม่ ๆ
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวถึงความพิเศษของงานในปีนี้ว่า การเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ของประเทศไทย มีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปี โดยเน้นการนำเสนอเสน่ห์และอัตลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ ทั้งจากเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ พร้อมกับเป้าหมายการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลให้ได้ถึง 10.6 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยกว่า 8.7 แสนล้านบาทในปีนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเปิดตลาดใหม่ ๆ สร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพที่สำคัญของประเทศไทย
โดยเน้นให้ชูเสน่ห์ไทยดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมโปรโมทการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งปัจจัยสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนประเทศไทย โดยเน้นเสน่ห์ของความเป็นไทยที่หลากหลาย ตั้งแต่ความมีน้ำใจของคนไทย การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อาหารไทย ศิลปวัฒนธรรม ไปจนถึงภูมิประเทศที่สวยงาม ทั้งหมดนี้ถูกนำเสนอผ่านแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนไทย ได้แก่:
- Must Taste อาหารไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น ข้าวซอยที่ได้รับรางวัลซุปที่ดีที่สุดของโลก ส้มตำ ลาบ แกงเหลือง และผลไม้ไทย ซึ่งเป็นตัวแทนความเป็นเอกลักษณ์ของไทย
- Must Try กิจกรรมเด่นที่ต้องลองเมื่อมาเมืองไทย เช่น มวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
- Must Buy สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ผ้าทอ ผ้าย้อมสีธรรมชาติ เครื่องจักสานจากหวาย เครื่องเงินจากสุโขทัย และเครื่องทอง
- Must Seek การค้นพบแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนอยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่มีความงดงามไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวหลัก
- Must See ประเพณีและวัฒนธรรมที่โดดเด่น เช่น สงกรานต์ ซึ่งได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
โดยการจัดแสดงภายในคูหาของประเทศไทยในครั้งนี้มุ่งเน้นความยั่งยืนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการท่องเที่ยวของโลกที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืน (Sustainable Tourism) รวมถึงมีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ Travel Tech โดยใช้นวัตกรรม AI และระบบ 3D hologram ที่เรียกว่า TATAI เพื่อให้ข้อมูลการท่องเที่ยวแบบดิจิทัลแก่ผู้เข้าชมงาน
นอกจากนี้ ในงาน ITB Berlin 2025 ยังมีโซนแสดงสินค้าและบริการที่หลากหลาย อาทิ โซน “SANEH THAI SHOWCASE” ซึ่งจัดแสดงสินค้าท้องถิ่นและงานฝีมือจากหลายภูมิภาคของประเทศไทย เช่น วาสนาเครื่องจักสานไม้ไผ่จากเชียงใหม่, เครื่องประดับจิวเวลรีจากจันทบุรี, ผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติจากแพร่, เครื่องเงินจากน่านและสุโขทัย, เครื่องปั้นเบญจรงค์จากสมุทรสงคราม และเซรามิกจากลำปาง รวมไปถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) เช่น ชา กาแฟ และโกโก้จากแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียงของไทย
ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี มีการเปิดตัวระบบนำร่อง TATAI ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถประมวลผลข้อมูลและให้บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยวแก่ผู้เข้าชมงานผ่านการสนทนาแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดง Thailand Green Destinations Map ซึ่งเป็นแผนที่ที่แสดงแหล่งท่องเที่ยวไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนในระดับประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งนำเสนอโครงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดกระบี่ ซึ่งถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เน้นความยั่งยืน
งาน ITB Berlin 2025 ในครั้งนี้ยังมีการจัดโซนเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการไทยหลายแห่ง รวมถึงการแสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่เน้นความยั่งยืนและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดเวิร์กชอป “Scents of Thai” ซึ่งนำเสนอการทำถุงเครื่องหอมแบบไทยจากดอกไม้แห้งและน้ำมันหอม รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกมากมาย.
