ทาสแมวต้องรู้! ทำความรู้จัก 5 แมวโบราณ พันธุ์ไทยแท้ ยิ่งเลี้ยงยิ่งให้โชค

0
2517

พาทาสแมวมารู้จักกับ “แมวไทยโบราณ” สายพันธุ์แมวที่เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ โดยแต่เดิมมีทั้งสิ้น 17 สายพันธุ์ ทว่าในปัจจุบันหลงเหลือเพียงแค่ 5 สายพันธุ์เท่านั้น ซึ่งนอกจากแมวเหล่านี้จะมีรูปร่าง ลักษณะและสีสันที่เด่นสะดุดตา ยังมีความเชื่อกันว่าเป็นแมวมงคลอีกด้วย หากเลี้ยงไว้ในบ้านจะเป็นคุณแก่เจ้าของบ้าน ทั้งเรื่องสุขภาพ ความร่ำรวย อำนาจ บารมี

 

1.แมววิเชียรมาศ

ขอบคุณภาพ : Purina One

แมววิเชียรมาศ มีชื่อเสียงอย่างมากในต่างประเทศ โดยชาวต่างชาติเรียกแมวไทยลักษณะนี้ว่า Siamese Cat ซึ่งปรากฎหลักฐานเก่าสุดในสมุดข่อยโบราณของไทย นิยมเลี้ยงไว้ในพระราชสำนักตั้งแต่สมัยอยุธยา เพราะมีความเชื่อว่าเป็นแมวให้โชคลาภ ในสมัยนั้นชาวบ้านธรรมดาไม่มีโอกาสได้เลี้ยง เนื่องจากมีราคาสูง ซื้อ-ขายได้ถึงหนึ่งแสนตำลึงทอง

ลักษณะเด่น คือ ตาสีฟ้าเหมือนตาฝรั่ง ขนลำตัวสั้น แน่น โทนสีขาวแกมสีน้ำตาล และมีแต้มสีเข้มที่เรียกว่า “แต้มสีครั่ง” หรือสีน้ำตาลไหม้ แต้มอยู่ที่บริเวณหน้า หูทั้งสองข้าง ขาทั้งสี่ข้าง หาง และที่อวัยวะเพศ รวม 9 ตำแหน่ง

 

2.แมวสีสวาด หรือ แมวโคราช

ขอบคุณภาพ : รวมพันธุ์แมวน่ารักๆ

แมวสีสวาด (Silver Blue) มีถิ่นกำเนิดที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา โดยแมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ แมวสีสวาด แมวโคราช แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา โดยชื่อ “แมวโคราช” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว ซึ่งคนไทยบางกลุ่มเรียกว่า “แมวสีสวาด” เนื่องจากสีขนของแมว มีสีเหมือนเมล็ดของต้นสวาด คนโบราณมีความเชื่อว่าแมวสีสวาดเป็นแมวนำโชค จะนำมาซึ่งความสุข ความมงคลมาให้แก่ผู้เลี้ยง

โดยมีการพบหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราช ในสมุดข่อยที่เขียนขึ้นในระหว่าง พ.ศ.1893-2310 กล่าวถึงแมวมงคล 17 ตัวของประเทศไทย 1 ในนั้นมีชื่อแมวโคราชรวมอยู่ด้วย ปัจจุบันสมุดข่อยนี้เก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะเด่น คือ สีขนเหมือนสีเมล็ดสวาด ไม่มีการผลัดขนเป็นสีอื่น บริเวณหัว ดูจากด้านหน้าเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังบริเวณจมูกและริมฝีปากเป็นสีเงินหรือสีม่วงอ่อน โดยแมวสีสวาดตัวผู้ บริเวณหน้าผากมีรอยหยัก ทำให้เป็นรูปหัวใจชัดเจนมากขึ้น ตามีสีเหลืองอมเขียวเปรียบเสมือนข้าวกล้า จึงได้รับการคัดเลือกให้ใช้ในพิธีแห่นางแมวขอฝน

 

3.แมวศุภลักษณ์

ขอบคุณภาพ : samyan-mitrtown

แมวศุภลักษณ์ ปรากฏชื่อในสมุดข่อยโบราณ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แมวทองแดง (Copper) เนื่องจากลักษณะของร่างกาย มีขนสีน้ำตาลเข้มเหมือนสีทองแดงเสมอกันทั้งตัว ตามีสีเหลืองเป็นประกายเหมือนสีอำพัน หนวดมีสีน้ำตาลเหมือนลวดทองแดง บริเวณตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้า หู ปลายขา และ หาง มีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วๆไป ลักษณะของของสีที่โดดเด่น จึงเหมาะสมกับคำว่า “ศุภลักษณ์” ที่แปลว่าลักษณะที่ดี

อย่างไรก็ตาม มีแมวอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับการสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นแมวศุภลักษณ์ของไทย ที่ว่ากันว่าติดตามเจ้าของคนไทยที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยศึกในประเทศพม่า เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ต่อมา ดร.โจเซฟ ซีทอมสัน (Dr. Joseph Thomson) ชาวอเมริกัน ได้นำลูกแมวจากประเทศพม่าไปพัฒนาสายพันธุ์ และจดทะเบียนที่ประเทศอังกฤษ ในชื่อ แมวพม่า หรือ Burmese Cat ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวศุภลักษณ์ของไทย

 

4.แมวโกนจา

ขอบคุณภาพ : แมวสยาม cats of Thailand

แมวโกนจา หรือ โกญจา เป็นแมวที่ปรากฏชื่อในสมุดข่อยโบราณ ลักษณะ คือ สีดำสนิทตลอดทั้งตัว ไม่มีสีอื่นปะปน ขนสั้น มีลักษณะเป็นขนเส้นเล็ก ละเอียดนุ่ม เรียบตรงทั้งลำตัว ส่วนหัวกลม ปากเรียวแหลม หูตั้ง ตาเป็นสีเหลืองอมเขียว รูปร่างปราดเปรียว หางยาว ปลายหางแหลมตรง เท้าคล้ายเท้าสิงห์ ทำให้มีความสง่างามขณะเคลื่อนไหว

คนโบราณเชื่อว่า แมวโกนจา เป็นแมวมงคล ให้คุณกับผู้เลี้ยง ใครเลี้ยงไว้จะมีสมบัติมากมาย ช่วยส่งเสริมการงานให้คนเลี้ยงมีอำนาจวาสนา เป็นที่ชื่นชอบของเจ้านาย คิดสิ่งใดทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ และด้วยความที่มีสีดำทั้งตัว จึงมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า “ดำมงคล” โดยแมวสายพันธุ์โกนจา มีลักษณะคล้ายกับแมวสายพันธุ์ต่างชาติ คือ สายพันธุ์บอมเบย์ (Bombay)

 

5.แมวขาวมณี

 

ขอบคุณภาพ : แมวไทยวิฬาร์โบราณ

แมวขาวมณี หรือ แมวขาวปลอด (Pure White) สันนิษฐานว่าเกิดในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ จึงไม่ได้มีบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณที่มีการรวบรวมลักษณะแมวมงคล 17 ชนิด โดยได้มีการพบหลักฐานภาพแมวขาวมณี ตามจิตรกรรมฝาผนังในวัดต่างๆ ในเขตธนบุรี เช่น พระอุโบสถวัดทองนพคุณ

ลักษณะ คือ รูปร่างขนาดกลาง ขนสีขาวสั้น แน่น อ่อนนุ่ม ส่วนหัวคล้ายรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่ แบน
ดวงตามี 3 แบบ คือ มีตาสีฟ้าทั้ง 2 ข้าง, ตาสีเหลืองทั้ง 2 ข้าง และตา 2 สี คือข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง

แม้ว่า แมวขาวมณี จะไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ แต่ในปัจจุบันเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก เนื่องจากมีความเชื่อง ขี้เล่น และมีความเชื่อกันว่าเป็นมงคลแก่เจ้าของ และนำโชคลาภมาให้เจ้าของได้อยู่เสมอ