เปิด 5 จุดเช็คอิน “ไหว้พระใหญ่ทั่วไทย” เอาใจสายบุญ

0
834

เปิดศักราชใหม่ 2565 ปีใหม่ทั้งทีก็ต้องนำความสิริมงคลเข้ามาในชีวิตกันหน่อย พาไปทำความรู้จัก 5 พระใหญ่ทั่วไทย ไหว้พระเสริมบุญ เอาฤกษ์เอาชัย สู้กับปีนี้กันไปตลอดทั้งปี

 

1.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) กรุงเทพฯ

ขอบคุณภาพ : พระ9วัด

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ วัดโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงของกรุงเทพมหานคร เป็นวัดโบราณที่สร้างในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการบูรณะเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัด เห็นทีคงจะไม่พ้น “พระพุทธไสยาส” หรือ “พระนอน” ที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารของวัด เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ขนาดองค์พระยาวถึง 46 เมตร สูงจากพื้นถึงยอดพระเกตุมาลา 15 เมตร พระพุทธบาท ยาว 5 เมตร สูง 3 เมตร จัดว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร และใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย

 

2.วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขอบคุณภาพ : addsiam

วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญวัดหนึ่งของอยุธยา จากประวัติการก่อสร้าง แม้ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่ในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐได้มีการบันทึกเอาไว้ว่า มีการสถาปนาพระพุทธรูปพุทธชื่อ “พระเจ้าพแนงเชิง” เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี

สำหรับพระประธานของวัด คือ หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร วัสดุ พระพุทธรูปองค์นี้ถือกันว่าเป็นพระโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรกสร้าง ซึ่งหลวงพ่อโตเป็นพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ชาวจีนมาก โดยเรียกกันว่า “ซำปอกง”

โดยคนเชื้อสายจีนในไทยจำนวนมาก เชื่อกันว่า “แต้ฮั้ว” (ในภาษาแต้จิ๋ว) หรือ “เจิ้งเหอ” (ในสำเนียงจีนกลาง) เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้ และเชื่อกันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนนำพาคนจีนมาตั้งหลักแหล่งในเมืองไทย ถือเป็นบรรพชนคนสำคัญ จึงนิยมมากราบไหว้บูชากัน เหมือนว่าเป็นตัวแทนของ “ซำปอกง”

 

3.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระพุทธชินราช) จังหวัดพิษณุโลก

ขอบคุณภาพ : วิกิพีเดีย

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ชาวบ้านมักเรียกกันในชื่อ “วัดใหญ่” เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ภายในมีการประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย

“พระพุทธชินราช” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว และสูง 7 ศอก ลักษณะงดงามตามรูปแบบศิลปะสุโขทัย คือ เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ พระพักตร์เอิบอิ่ม ค่อนข้างกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลิง มีลักษณะพิเศษเรียกว่า “ทีฆงคุลี” คือ ปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน

 

4.วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง

ขอบคุณภาพ : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง

วัดม่วง สันนิษฐานว่าเป็นวัดร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงให้แก่พม่า ทำให้กลายเป็นวัดร้าง เหลือแต่ซากปรักหักพัง กระทั่งหลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ได้มาปักกลดธุงดงค์ที่วัดแห่งนี้ ระหว่างนั่งสมาธิ ท่านได้เห็นนิมิตองค์หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดง มาบอกว่าให้ช่วยบูรณะวัดขึ้นใหม่ ท่านจึงเริ่มการปฏิสังขรณ์

โดยหลวงพ่อเกษม ได้ร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธา สมทบทุนกันสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระนามว่า “พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” ขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูงถึง 95 เมตร ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 16 ปี นับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

5.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์

ขอบคุณภาพ : วิกิพีเดีย

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 พื้นที่มีขนาดใหญ่ราว 91 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ความโดดเด่นของที่นี่ คือ เป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” ลักษณะเป็นพระพุทธรูปสีขาวซ้อนกัน 5 องค์ องค์พระมีขนาดใหญ่โต ล้อมรอบไปด้วยทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยภูเขาและเมฆหมอก