เมื่อการพักผ่อนหย่อนใจเป็นเรื่องจำเป็นของคนในเมืองใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพมหานครจึงเป็นคำค้นหาสุดฮิต หนึ่งในจังหวัดที่เป็นตัวเลือกชั้นดีคือ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากรุงเทพฯ เพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้ง กาญจนบุรี ยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ซึ่งวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมต่างได้รับอิทธิพลผสมผสานกันระหว่างคน 2 ฝั่ง จนเกิดวิถีที่มีเสน่ห์ รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งวัดกลางน้ำ สะพานมอญที่มีประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง และกิจกรรมสุดฮิตอย่างการล่องแพ เราจะพาไปเที่ยว 7 ที่ในจังหวัดกายจนบุรีที่ถือว่าถ้าพลาดชมสถานที่เหล่านี้ถือว่าคุณไปไม่ถึงกาญจนบุรี

เขื่อนวชิราลงกรณ์

เขื่อนวชิราลงกรณ์เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อยในท้องที่ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ความพิเศษอยู่ที่ด้วยความที่เขื่อนมีการก่อสร้างมีความสูงจากฐานถึง 92 เมตรสันเขื่อน ซึ่งถ้าหากมองจากพื้นดิน เขื่อนดังกล่าวสูงเกือบเทียบเท่าภูเขาเลยก็ว่าได้ และด้วยความสูงนี้เองทำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนสันเขื่อนได้ชมวิวสุดตระการตา ยิ่งถ้าเป็นบรรยากาศช่วงเช้าตรูพื้นที่บริเวณนั้นจะปกคลุมไปด้วยหมอกขาวนวลท่ามกลางภูเขาล้อมรอบ และแหล่งน้ำอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าเป็นวิวหลักล้านคุ้มค่ากับการเดินทางขึ้นเขาลงห้วยมาจุดนี้

วัดใต้น้ำ หรือ เมืองบาดาล

วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ หรือ เมืองบาดาล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อเสียงของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และยังถือเป็น Unseen Thailand จึงทำให้นักท่องนิยมมาล่องเรือเพื่อชมซากโบราณสถานของวัด เนื่องจาก อ.สังขละบุรี เดิมตั้งอยู่บนพื้นราบ แต่เมื่อมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ จึงทำให้น้ำท่วมหมู่บ้านและทำให้วัดจมอยู่ใต้น้ำจำนวน 3 วัดซึ่งตั้งอยู่ละแวกเดียวกัน ได้แก่ วัดสมเด็จเก่า วัดศรีสุวรรณเก่า และวัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า

แผนที่ : เมืองบาดาล

สะพานมอญ

สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์​ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อม ๆ กับการได้เห็นวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญในแถบนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดคือการได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสะพานที่เสมือนเป็นสายใยวัฒนธรรมของชาวมอญและไทย ในดินแดนสุดขอบตะวันตกแห่งนี้

แผนที่ : สะพานมอญ

ทางรถไฟสายมรณะ

ทางรถไฟสายมรณะ สายนี้พาดผ่านบริเวณถ้ำกระแซ สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชีย ที่กองทัพญี่ปุ่น เกณฑ์ มาสร้าง เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า สถานที่นี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะไปถ่ายรูปสัมผัสบรรยากาศ และร่องรอยประวัติศาสตร์ที่เล่าขานมาช้านาน “หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟสายนี้ก็ตายไปเท่านั้น” นี่คือคำเล่าขานถึงเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ไทย-พม่า ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตรนี้ คือ ความหฤโหด ทารุณ และยากลำบากของสิ่งที่เชลยศึกได้รับ จนได้รับการขนานนาม ว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ”

แผนที่ : ทางรถไฟสายมรณะ

ต้นจามจุรียักษ์

ต้นจามจุรียักษ์ ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความยิ่งใหญ่ของต้นจามจุรีขนาดใหญ่ต้นนี้ โดยเป็นต้นไม้มีอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี ขนาดของลำต้นโดยรอบประมาณ 10 คนโอบ มีเส้นรอบวงประมาณ 15 เมตร ความสูงประมาณ 20 เมตร แผ่กิ่งก้านน้อยใหญ่ปกคลุม สร้างร่มเงาเพิ่มความร่มรื่นไปรอบบริเวณของพื้นที่พุ่มที่มีประมาณ 1 ไร่เศษเลยทีเดียว ไม่ว่าใครที่ได้มาเห็นแล้วจะต้องตะลึงกับความใหญ่โตมโหฬารของต้นไม้จามจุรียักษ์ ถือเป็นอีกหนึ่งต้นจามจุรีที่มีขนาดใหญ่และหาชมได้ยากในปัจจุบัน

แผนที่ : ต้นจามจุรียักษ์

มีนาคาเฟ่

มีนาคาเฟ่ ตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จัดว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่มีกระแสแรงในจังหวัดกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปถ่ายรูป ชมบรรยากาศท้องนา สูดอากาศบริสุทธิ์ซึ่งเป็นการเติมพลังได้เป็นอย่างดี โดยเราต้องซื่อเครื่องดื่มจากทางร้าน 2 คนต่อ 1 แก้ว เป็นเหมือนตั๋วเข้าชมคาเฟ่แห่งนี้ โดยการตกแต่งตัวร้านะออกแบบแนวโมเดิร์นปูนเปลือยทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่ตกแต่งเข้ากับทุ่งนาได้อย่างกลมกลืน มีดาดฟ้าให้นั่งชมวิวได้ด้วย แถมมีสะพานทอดยาวกลางทุ่งให้เดินเล่นชมวิว ถ่ายภาพเช็คอินเก๋ๆหลายมุมเลยทีเดียว

แผนที่ : มีนาคาเฟ่

ล่องแพ

บริการล่องแพ หรือที่พักที่เป็นเรือนแพในจังหวัดกาญจนบุรีมีให้เลือกสรรเป็นจำนวนมาก เราอาจจะเลือกได้ตามงบประมาณ หรือเลือกแพที่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็ได้ โดยเรือนแพที่เราจะพาไปชมนี้ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ชึ่งเป็นแพวิลล่าริมน้ำสำหรับเข้าพัก 12 คน เหมาวันละ 8,000 บาท ฟรีอาหารเช้า และยังมีอุปกรณ์ปิ้งย่างให้เราจัดปาร์ตี้ได้เองอีกด้วย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และจะมีบริการลากแพไปเล่นน้ำตกไทรโยคใหญ่ น้ำตกไทรโยคเล็ก หรือจะเล่นน้ำหน้าเรือนแพของเราเองก็ได้

แผนที่ : ล่องแพ 

Admin : AreeWrite