ดาราสาวไต้หวันมาไทย ถูกตำรวจรีดไถเงิน 27,000 บาท

0
414

ดาราสาวไต้หวัน ได้มาเที่ยวประเทศไทยเพื่อฉลองวันปีใหม่ โดยในช่วงวันที่ 5 มกราคม เวลาราวๆประมาณ ตี 2.13 น. ดาราสาวท่านนี้ มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด่านตรวจมีการรีดไถเงินเธอ เป็นเงิน 27,000 บาท จากกรณีดังกล่าวได้กลายเป็นข่าวดังที่ไต้หวัน ทำให้เกิดกระแสตามมาอีกมากมาย ดาราสาวท่านนี้ชื่อว่า “อันยู๋ชิง” เธอได้โพสต์ว่า ก่อนที่เธอจะกลับ 1 วัน เธอได้นั่งแท็กซี่กับเพื่อนๆ เพื่อที่จะกลับโรงแรมเมื่อถึงแถวหน้าสถานทูตจีน ถนนทั้ง3 เส้นมีการตั้งด่านตรวจ และรถแท็กซี่ที่เธอนั่งมาถูกเรียกให้หยุด จากคำบอกเล่าที่รายงานในสื่อไต้หวัน เธอเรียกกลุ่มคนที่ตั้งจุดตรวจว่าตำรวจ  ตำรวจได้ทำการตรวจค้นตัว และกระเป๋าถือของเธอ (ในคำสัมภาษณ์เธอบอกว่า เหมือนกับการค้นหายาเสพติดแบบในหนังแมกซิกัน เธอตกใจมาก) และมีการตรวจค้นว่าเธอพกเงินมาจำนวนเท่าไหร่ 

ต่อมาถามถึงหนังสือเดินทางและวีซ่าเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดู เเละบอกว่าได้ขอวีซ่า VOA เข้ามาแต่แล้วทางตำรวจที่ตรวจค้นเธอกลับไม่ยอมรับวีซ่า VOA บอกต้องใช้เป็นวีซ่าจริง ๆ ที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น จากนั้นมีการยืดยื้ออยู่นาน ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจ เนื่องจากต่างภาษาก็ทำให้สื่อสารลำบาก เธอไม่รู้ว่าตนผิดตรงไหน เธอยืนจนเมื่อยก็นั่งยองลงกับพื้น ก็ถูกตำรวจทำเสียงดุดันใส่ไม่ให้นั่ง เธอถูกขู่ว่า จะจับพาไปโรงพัก เธอบอกว่าไปก็ไปแต่พวกนั้นก็ไม่ยอมพาเธอไป เธอก็ทำทุกอย่างเหลือขาดแต่เพียงคุกเข่าเท่านั้นเอง ทำให้เพื่อนในกลุ่มของเธอได้อัดคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน แต่ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้ลบคลิป ยื้ออยู่นาน สุดท้ายเรียกเงินค่าปรับตกลงที่ 27,000 บาท เธอเล่าว่า พอตกลงเรื่องเงินได้ จากที่ตำรวจที่ดุดันกลับยิ้มออกมา

หลังจากตกลงราคากันได้ เธอนับเงินให้ตำรวจไป 27,000 บาทตำรวจจึงเรียกแท็กซี่ให้เธอกลับไปยังที่พัก เธอเล่าต่อว่า “ข้างๆเธอมีกลุ่มสาวชาวเกาหลีประมาณ 5 คน แต่น่าจะภาษาเป็นปัญหาคุยกันไม่ได้เลย สาวเกาหลีจึงยังอยู่ตรงนั้นตอนพวกเธอถูกปล่อยแล้ว”

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวดาราสาวได้มีการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียของเธอโดยในโพสต์เล่าถึงความน่ากลัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามจะรีดไถเงินของเธอรวมทั้งอยากเตือนคนไต้หวัน และจีนเองที่เปิดประเทศแล้วไปเที่ยวไทย ให้ระวังตัวมากๆ พกเงินสดให้น้อยๆ เพราะพวกนั้นจะมาหาเรื่องค้นตัว ค้นกระเป๋า และให้พกวีซ่าด้วย (นี่ขนาดมีก็ยังหาเรื่อง) ช่วงนี้นักท่องเที่ยวชาวจีน (ไต้หวัน จีน ฮ่องกง) เริ่มไปไทยเยอะ ต้องระวังไว้เพราะพวกเขาจ้องค้นตัวนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่แล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกกลัวและเสียความรู้สึกเป็นอย่างมากจนไม่อยากกลับมาเหยียบที่ประเทศไทยอีก โดยยังมีการใช้ประโยคว่า “ลาก่อน กรุงเทพห่วยๆ”

ต่อมาพลตำรวจตรี สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกตำรวจ สน.ห้วยขวาง 6 นาย ซึ่งมีตั้งแต่ระดับนายสิบถึงนายร้อย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านป้องกันเหตุอาชญากรรมในคืนวันเกิดเหตุ ชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่าไม่ได้มีการรีดไถเงิน แต่อย่างใด จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่าน เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีทั้งผู้ชายผู้หญิงมาเป็นกลุ่มพฤติกรรมพกบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เพียงแจ้งว่าผิดกฎหมาย แต่ด้วยเพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวสื่อสารด้วยภาษาจีน และตำรวจกลุ่มนี้สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ประกอบท่าทาง จึงสื่อสารกันค่อนข้างยาก ประกอบกับในเวลาดังกล่าว เป็นช่วงใกล้เวลาของการยกเลิกจุดตรวจจึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเดินทางกลับไปได้เนื่องจากหัวหน้าชุดจุดตรวจ ประเมินแล้วว่าไม่น่าจะเป็นบุคคลที่เป็นภัยหรือเป็นอันตราย

ความคืบหน้าล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจอคนขับรถรับจ้างสาธารณะที่เรียกผ่านระบบแอปพลิเคชันที่รับนักท่องเที่ยวไต้หวันแล้ว จากการสอบปากคำคนขับรถรับจ้างสาธารณะที่เรียกผ่านระบบแอปพลิเคชัน ที่ สน.ห้วยขวาง เบื้องต้นทราบว่า หลังจากคนขับได้รับการเรียกผ่านระบบแอปพลิเคชันเอกชน จึงเข้าไปรับหญิงคนดังกล่าวที่บริเวณหน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในย่าน RCA จากนั้นได้ขับรถมาตามเส้นทางจนกระทั่งเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกและผ่านมาที่หน้าด่านจุดตรวจจุดสกัดของ สน.ห้วยขวาง ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตจีน ซึ่งตลอดทางที่หญิงสาวคนดังกล่าวนั่งรถมา ลักษณะมีอาการมึนเมามาก และพูดคุยเสียงดังมาตลอดทาง กระทั่งมาถึงที่ด่าน ตำรวจขอตรวจตามปกติและพูดจาด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่หญิงสาวคนดังกล่าวมีอาการมึนเมาพูดคุยเสียงดัง ตำรวจจึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและวีซ่า แต่คาดว่าเกิดการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน จึงเชิญหญิงสาวลงไปพูดคุยบนถนนก่อนจะเปลี่ยนไปคุยกันบนทางเท้า ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไร แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่บริเวณหน้าด่านตรวจ ต้องจอดรออยู่บนรถเป็นเวลานานมากเกือบ 1 ชั่วโมง กระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าวมาจ่ายเงินค่าบริการ และให้ขับรถออกจากด่านไปก่อน