“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” หากได้ยินประโยคนี้ เป็นที่รู้กันว่า เทศกาลตรุษจีน เวียนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองสู่การขึ้นปีใหม่ ของผู้ที่มีเชื้อสายจีนทุกคนนั้นให้ความสำคัญกับวันนี้กันทั่วโลก และเป็นเทศกาลอันยิ่งใหญ่ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
วันตรุษจีนปี 2567 ตรงกับวันที่เท่าไร?
ตรุษจีนคือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีสิ่งที่ปฏิบัติกัน คือ “วันจ่าย” เป็นวันที่คนในครอบครัวออกไปจับจ่ายซื้อของสำหรับไหว้บรรพบุรุษและเฉลิมฉลองปีใหม่ วันรุ่งขึ้นเรียกว่า “วันไหว้” เป็นวันไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้าต่างๆ วันสุดท้ายเรียกว่า “วันเที่ยว” เป็นวันที่คนในครอบครัวไปเยี่ยมญาติมิตรและเฉลิมฉลองปีใหม่กัน
-
วันจ่าย ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
วันจ่าย คือ วันก่อนวันสิ้นปีก่อนถึงตรุษจีน เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องออกไปจับจ่าย ซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าเหล่านั้นจะปิดร้านเพื่อหยุดพักผ่อนยาว
-
วันไหว้ตรุษจีน ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
ช่วงเวลาไหว้ตรุษจีน 2567 จะแบ่งเป็น 4 ช่วง ดังนี้
ตอนเช้ามืด เวลา 06.00 – 07.00 น. จะเริ่มพิธีการ “ไหว้เทพยาดา ฟ้า ดิน” และไหว้เจ้าที่เจ้าทาง และเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือ โดยตั้งโต๊ะไหว้เตรียมของไหว้ ซาแซ เช่น เป็ด หมู ไก่
ตอนสาย เวลา 10.00 – 11.00 น. จะทำพิธีการ “ไหว้บรรพบุรุษ” พ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว จะไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ กับข้าว ขนมหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม รวมถึงการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และเสื้อกระดาษกงเต๊กให้กับบรรพบุรุษ
ตอนบ่าย เวลา 14.00 – 15.00 น. จะทำพิธีการ “ไหว้ผีไม่มีญาติ” ซึ่งบางบ้านก็ไหว้เป็นปกติทุกปี บางบ้านก็ไม่นิยมไหว้ โดยจะไหว้ด้วยข้าวสวย กับข้าว และขนมหวาน เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน และกระดาษเงินกระดาษทอง เมื่อไหว้เสร็จแล้วให้จุดประทัด เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป
ตอนมืด เวลา 23.00 – 01.00 น. ช่วงสุดท้ายของพิธีไหว้ คือ “ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ” เพื่อเป็นการขอโชคลาภจาก “เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย”
-
วันเที่ยวตรุษจีน ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567
วันเที่ยว คือ “วันขึ้นปีใหม่” ตามปฏิทินจันทรคติจีน ตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ชาวไทยเชื้อสายจีนมักแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และมีสีสันสดใส โดยเฉพาะสีแดง ซึ่งเป็นสีมงคล กิจกรรมในวันขึ้นใหม่ ชาวจีนนิยมพากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ รวมถึงงดการทำบาป เพราะถือว่าเป็นวันแห่งสิริมงคล
ธรรมเนียมปฏิบัติในวันตรุษจีน
- การไหว้บรรพบุรุษ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ชาวจีนจะจัดเตรียมอาหารและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
- การแจกอั่งเปา เป็นการมอบเงินขวัญถุงให้กับเด็กๆ เพื่อเป็นสิริมงคล เด็กๆ ที่ได้รับซองแดงจะต้องกล่าวคำขอบคุณผู้ใหญ่ที่มอบอั่งเปาให้
- การกินอาหารมงคล ชาวจีนเชื่อว่าการกินอาหารมงคลจะช่วยให้มีโชคดีตลอดทั้งปี อาหารมงคลที่มักรับประทานในวันตรุษจีน ได้แก่ ปลา หมี่ซั่ว ขนมเข่ง เกี๊ยว เป็นต้น
- การประดับบ้านเรือนด้วยสีแดง สีแดงเป็นสีมงคลของชาวจีน ชาวจีนจึงนิยมประดับบ้านเรือนด้วยสีแดงในวันตรุษจีน
- การเยี่ยมญาติมิตร ชาวจีนจะใช้เวลาในวันตรุษจีนไปเยี่ยมญาติมิตร เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยกัน
อาหารมงคลในวันตรุษจีน
- ปลานึ่ง ปลาทอด สื่อถึงความมีโชคลาภ ความมั่งคั่ง
- ไก่ต้ม ไก่แช่เหล้า ไก่ทอด เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- เป็ดพะโล้ เป็ดปักกิ่ง เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วง
- หัวหมูต้ม หมูสามชั้นต้ม หมูกรอบ เพื่อความมั่งคั่ง ร่ำรวย อยู่ดีกินดี
- กุ้งทอดกระเทียม กุ้งผัดพริกเกลือ เพื่อการมียศตำแหน่ง บารมี
- ซาลาเปาไส้ต่าง ๆ สื่อถึงการห่อโชค ห่อเงิน ห่อทอง
- ขนมบัวลอยจีน เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวกลมเกลียวและรักกัน
ผลไม้มงคลในวันตรุษจีน
- ส้ม หมายถึง โชคลาภ
- สาลี่ หมายถึง อายุยืน
- ลูกท้อ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
- มังคุด หมายถึง ความมั่งคั่ง
- องุ่น หมายถึง ร่ำรวย
วันตรุษจีนห้ามทำอะไรบ้าง?
- ห้ามทะเลาะเบาะแว้ง ห้ามร้องไห้ ห้ามพูดคำหยาบ
- ห้ามทำความสะอาดบ้าน
- ห้ามซักเสื้อผ้า
- ห้ามทำของแตก หากมีของแตกในบ้านต้องนำไปทิ้งทันที
- ห้ามใช้ของมีคม เช่น มีด กรรไกร
- ห้ามให้คนอื่นเข้าไปในห้องนอนวันตรุษจีน
- ห้ามยืมเงินหรือให้คนอื่นยืมเงิน
และนี่ก็คือเทศกาลตรุษจีน ทั้งวีนจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว รวมทั้งธรรมเนียมปฏิบัติ อาหารมงคล ผลไม้มงคล และข้อห้ามในวันสำคัญนี้ ดังนั้นตรุษจีนปีนี้ ขอมอบคำอวยพรให้กับทุกคน “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ อั่งเปาตั่วตั่วไก้” อันมีความหมายว่า ปีใหม่นี้ ขอให้สมปรารถนา มีแต่ความสุขมั่งคั่ง โชคดีร่ำรวยตลอดปี และตลอดไป
Cr.Cholthicha Prangkeaw