Thailand Paradise สถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติพร้อมที่จะช่วยเยียวยาใจทุกคน !

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นต้องบอกเลยว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ ทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงสามารถเข้าถึงได้ง่ายทำให้นักท่องเที่ยวจึงเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆที่ต้องการมาสัมผัสการท่องเที่ยวการผ่อนคลายที่มีความคุ้มค่า และเข้าถึงค่าใช้จ่ายได้  โดยการท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาตินั้นสามารถทำให้ร่างกายของเราที่ใช้งานอย่างหนักได้มีการพักผ่อนในพื้นที่ที่สงบและสัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง  ซึ่งการท่องเที่ยวในสถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสามารถส่งผลดีต่อมนุษย์ในหลายด้าน ทั้งในแง่ของสุขภาพกายและจิตใจ ต่อไปนี้คือผลดีที่การสัมผัสธรรมชาติสามารถมีต่อเรา

1. ลดความเครียด
   การอยู่ในธรรมชาติช่วยลดระดับความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างมาก หลายการศึกษาพบว่าเมื่อเราได้สัมผัสกับธรรมชาติ จะช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียด (เช่น คอร์ติซอล) ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสงบขึ้น
2. ปรับปรุงสุขภาพจิต
   การอยู่ในธรรมชาติช่วยปรับสภาพจิตใจให้ดีขึ้น ลดความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้า ธรรมชาติสามารถเป็นแหล่งพลังงานที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
3. เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
   การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติช่วยให้สมองได้รับการฟื้นฟูและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ผลการศึกษาพบว่าคนที่ได้ใช้เวลาอยู่ในธรรมชาติสามารถคิดได้ดีขึ้นและมีความสามารถในการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น
4. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย
   การเดินป่าหรือกิจกรรมทางกายภาพในธรรมชาติเช่น การปีนเขา หรือการเล่นน้ำ สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
5. กระตุ้นความสัมพันธ์ในครอบครัวและเพื่อนฝูง
   การท่องเที่ยวในธรรมชาติช่วยให้คนในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนมีโอกาสใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ทำให้เกิดการเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีกว่า การทำกิจกรรมร่วมกันในธรรมชาติยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างมีคุณภาพ
6. ส่งเสริมการทำสมาธิและการอยู่ในปัจจุบัน
   ธรรมชาติช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น เพราะเราได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบและสามารถรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว การสัมผัสกับธรรมชาติช่วยให้เราอยู่ในขณะปัจจุบันมากขึ้น และลดการคิดถึงสิ่งที่เป็นอุปสรรคทางจิตใจ
7. เสริมสร้างความสุข
   หลายการศึกษาพบว่าการอยู่ในธรรมชาติทำให้เรามีความสุขและพอใจมากขึ้น เนื่องจากสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติช่วยกระตุ้นความรู้สึกดีๆ และทำให้เรามีความรู้สึกสดชื่นและเบิกบาน

โดยในวันนี้เราเลยจึงแนะนำสถานที่ที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความสงบและความสวยงามของธรรมชาติ ดังนี้

• อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (เขาใหญ่)

เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทั้งป่าเขา น้ำตก และสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับการเดินป่าและเที่ยวธรรมชาติ 

• เกาะพะงัน (สุราษฎร์ธานี)

เกาะที่มีชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลใสบริสุทธิ์ รวมถึงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าฝนและน้ำตก

• อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน (พังงา)

เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก ด้วยทะเลที่ใสและปะการังที่อุดมสมบูรณ์

• ดอยอินทนนท์ (เชียงใหม่)

เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีอากาศเย็นสบายตลอดปี และมีวิวที่สวยงามของป่าไม้และธรรมชาติ

• อุทยานแห่งชาติแหลมพรหมเทพ (ภูเก็ต)

เป็นจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามและมีหาดทรายที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ

• อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (พิษณุโลก)

เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างขวางและธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีทั้งป่าเขา ทุ่งหญ้า และสัตว์ป่า

• น้ำตกเอราวัณ (กาญจนบุรี)

น้ำตกที่มีความสวยงามและน้ำใสไหลลงมาจากเขาสูง โดยน้ำตกนี้มีทั้งหมด 7 ชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมได้

• ทะเลหมอกที่ดอยผาหม่น (เชียงราย)

สถานที่ยอดนิยมในการชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ มีทิวทัศน์ที่สวยงามและธรรมชาติที่เงียบสงบ

• เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ลพบุรี)

เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนริมทะเลสาบ และสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติ

• อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา (พังงา)

ชมความงามของภูเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านในทะเล น้ำทะเลใส และระบบนิเวศทางทะเลที่หลากหลาย

มากไปกว่านั้นหลายอุทยานแห่งชาติในประเทศไทยมีบริการ แสตมป์เช็กอิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสะสมแสตมป์จากสถานที่ต่าง ๆ ภายในอุทยาน หรือการเก็บเป็นของที่ระลึกจากการท่องเที่ยวในแต่ละแห่งโดยทั่วไปแล้วอุทยานแห่งชาติจะมีจุดบริการแสตมป์เช็กอินที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือที่ทำการอุทยาน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปขอแสตมป์ที่นั่นได้เมื่อเข้าเยี่ยมชมสถานที่ หากคุณสะสมแสตมป์ในหลาย ๆ อุทยาน ก็สามารถสะสมเป็นคอลเล็กชั่นที่น่าภาคภูมิใจ หรือใช้เป็นการเตือนความทรงจำจากการเดินทาง

ตัวอย่างอุทยานที่มีบริการแสตมป์เช็กอิน

1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
   มีจุดแสตมป์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในอุทยาน เช่น น้ำตก และจุดชมวิว
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
   นักท่องเที่ยวสามารถขอแสตมป์ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือ ก่อนขึ้นเรือไปเกาะสิมิลัน
3. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
   มีแสตมป์เช็กอินที่จุดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ยอดเขาอินทนนท์
4. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
   นักท่องเที่ยวสามารถขอแสตมป์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่

โดยค่าใช้จ่ายแต่ละสถานที่จะแตกต่างกันไปแต่ละสถานที่และราคาจะมีค่าเข้าอุทยานราคาเริ่มต้น 40-50 บาท และค่าใช้จ่ายค่าที่พักจะเริ่มต้นราคาที่ 500 บาทต่อคืน โดยแต่ละสถานที่จะมีราคาแตกต่างกันไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติของไทยไม่จำเป็นต้องสูงเสมอไป ขึ้นอยู่กับการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและวิธีการเดินทางของคุณ คุณสามารถท่องเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติได้ในราคาประหยัดหากมีการวางแผนอย่างรอบคอบ แนะนำให้เลือกกิจกรรมและสถานที่ที่ตรงกับงบประมาณที่ตั้งไว้!

Cr.Saminee Laothanu