เรื่องของผิวเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุกคนเลยแหละไม่ชาแค่สาวๆ เท่านั้นะเพราะยุคนี้หนุ่มๆ ก็หันมาดูแลผิวตัวเองไม่ต่างจากสาวๆ เลยล่ะ ยิ่งช่วงนี้ที่มีฝุ่นพิษอย่าง PM 2.5 ก็ยังมาวนเวียนอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัย คุณลองสังเกตุตัวเองดีๆ ว่าทุกวันนี้คุณรู้สึกเจ็บคอ ไอบ่อยขึ้น คัดจมูกบ่อยขึ้นไหม นี่ยังไม่นับรวมเรื่องปัญหาผิวพรรณที่โทรมขึ้นจากฝุ่นพิษ เริ่มมีตุ่มใสๆ ขึ้นบนผิวหน้า ผื่นแดงๆ ก็เริ่มตามมา แล้วไหนจะคนรอบข้างที่เริ่มบนว่าแพ้ฝุ่นจนสิวขึ้น ผื่นคันต่างๆ ก็มีมาด้วยเช่นกัน นาทีนี้ถ้าไม่ดูแลตัวเองดีๆ ทั้งสุขภาพและผิวพรรณได้พังไปก่อนที่ฝุ่นจะหมดไปแน่ๆ ณ ตอนนี้เราต้องประคองสติให้ดีที่สุดเพื่อผยุงให้ทุกสถานการณ์รอบตัวดีขึ้นนะคะ
ในชีวิตประจำวันที่ต้องออกจากบ้านมาเจอฝุ่นละอองเนียมันส่งผลต่อสุขภาพผิวโดยตรง เนื่องจากอนุภาพขนาดเล็กมากของฝุ่นละอองที่เรามองไม่เห็น มันได้ไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (oxidation) กับชั้นไขมันเคลือบผิว (sebum) ทำหน้าที่เสมือนเกราะปกป้องผิวให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ อุดตัน จนทำให้เกิดปัญหาของผิวต่างๆ ตามมา เช่น สิว ริ้วรอย ผื่นคัน รวมถึงความหมองคล้ำ ดังนั้นการล้างทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ เราจึงต้องใส่ใจดูแลตัวเองในช่วงนี้ให้มากขึ้นเป็นพิเศษ
Step 1 Facial cleaning อันดับแรกใช้ eye remover เช็ดทั้งตาและคิ้วออกให้หมด จากนั้น cleansing water หรือcleansing oil ตามความชอบของแต่ละคน พอลบเครื่องสำอางทั้งหน้าออกจนหมดให้ใช้ saline (น้ำเกลือ) ชุบสำลีเช็ดให้ทั่วหน้าอีกรอบ แล้วก็ล้างหน้าตามปกติแต่ให้ใช้น้ำอุณหภูมิ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรูขุมขนกว้างและหน้าเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ถ้าจะให้ดีควรหาเครื่องทำความสะอาดผิวหน้ามาใช้จะยิ่งดีมาก เพราะเจ้าเครื่องทำความสะอาดผิวหน้าเนียจะช่วยล้างสิ่งสกปรกที่อุดตันใต้ผิวหนังออกมาไปเกลี้ยงกว่าล้างด้วยมือเปล่า ทีนี้เราก็จะหมดห่วงไม่ต้องกลัวว่าฝุ่นพิษที่เจอมาตลอดทั้งวันจะล้างออกหมดได้หรือไม่ ในเมื่อเรามีตัวช่วยดีๆ ก็ต้องงัดออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
Step 2 Skincare routine ต่อให้ไม่มีฝุ่นพิษมาทำร้ายผิว เราก็ไม่ควรละเลยที่จะบำรุงผิวอย่างเป็นประจำนะคะ แล้วยิ่งช่วงนี้เจอฝุ่นมาหนักๆ ก็ต้องดูแลผิวแบบจัดหนักยิ่งกว่าเดิม หลังล้างหน้าเสร็จก็เช็ดทำความสะอาดผิวอีกครั้งด้วย toner แล้วฉีดสเปร์น้ำแร่เพื่อให้ผิวกัดเก็บความชุ่มชื่นได้ดี แล้วตามด้วย serum ที่ใช้เป็นประจำ ต่อด้วย eye cream เพราะริ้วรอยหมองคล้ำใต้ตานั้นไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด แล้วตัว moisturizer เนียต่อให้ไม่ใช่หน้าหนาวก็ควรทา แต่ถ้ากลัวเหนียวเหนอะหนะ ก็ให้เลือกใช้แบบ oil free และเลือกใช้สูตรที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ สารที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผิว สารที่ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆ อันนี้จำเป็นมากเลยนะคะ มาต่อกันที่ acne treatment หรือเจลแต้มสิวนั้นเอง ช่วงนี้ถ้าสิวขึ้นเยอะจากสิ่งสกปรกที่อุดตันแล้วล่ะก็อย่าลืมทาเจลแต้มสิวกันด้วยนะคะ อย่างน้อยก็ถือเป็นการฆ่าเชื้อโรคที่หัวสิว และสุดท้ายไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน นอกจากจะช่วยกันแดดแล้วยังช่วยป้องกันมลภาวะได้ด้วย
Step 3 Scrub & Mask ถ้าวันไหนเจอกิจกรรมหนักๆ มา หรือในช่วงที่โดดแดดโดดฝุ่นมาหนักๆ ก็ควรที่จะสครับผิว เพื่อล้างสิ่งอุดตันในรูขุมขนออกมาบ้าง แถมการสครับเนียก็ช่วยกระชับรูขุมขนด้วยนะ ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นด้วย ถ้ามีเวลาอีกหน่อยใช้ sheet mask ก่อนนอนสัก 15-20 นาที ก็จะช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใสขึ้นมาหลังจากเจอมลพิษต่างๆ จากฝุ่นและควันตลอดทั้งวัน ก็ถือเป็นการเยียวยาผิวได้ดี
Step 4 Aromatherapy massage หาเวลาว่างมาดูแลตัวเองบ้างอย่างการเข้าสปาก็ช่วยให้คุณได้ผ่อนคลาย แถมยังเป็นการเข้าคอร์สดีท็อกซ์ขับล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ด้วยนะ ได้ทั้งปรนนิบัติผิวแถมยังช่วยคลายกล้ามเนื้อจากความเหนื่อยล้าต่างๆ ได้ดี การเข้าไปดมกลิ่นหอมสมุนไพรที่สปาจะช่วยให้คุณคลายความเครียดจากมลภาวะที่พบเจอมาในช่วงนี้ด้วยนะคะ
Step 5 Drinking water นี่แหละวิธีที่ง่ายที่สุดคือการดื่มน้ำสะอาด และถ้าให้ดีควรดื่มละอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพราะปัญหาผิวส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการขาดน้ำ และการที่ผิวขาดน้ำจะเกิดอาการผิวแห้งลอกเป็นขุย หากร่างกายเราได้รับน้ำเข้าสู่เซลล์ในปริมาณมาก จะช่วยให้ผิวพรรณดูดีขึ้น เพราะผิวหนังคนเรามีประกอบน้ำด้วยประมาณร้อยละ 70 เนื่องจากผิวหนังมีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำที่จะช่วยดูดซับน้ำและสิ่งต่างๆ ภายนอกที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ผิวหนังจึงสามารถดูดพลังงานจากรังสียูวีในปริมาณที่พอเหมาะสําหรับการสร้างวิตามินดี หรืออาจดูดซับรังสียูวีเข้ามามากเกินไป จนอาจเกิดความเสียหายรุนแรงต่อผิวได้ ฉะนั้นผิวหนังจึงสามารถปรับตัวเองตามสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เพื่อช่วยขับไล่เชื้อโรค ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ระบายความร้อน และช่วยให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ได้
5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะจากฝุ่น PM 2.5 ในช่วงนี้ แต่ก็อย่าลืมที่จะใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้านหรือออกจากสำนักงาน เพื่อป้องกันการสูดสารพิษเข้าสู่ร่างกายด้วยนะคะ
ผู้เขียน:JellyKiller
ขอบคุณบทความจาก :https://bsite.in/beauty/how-to-take-care-of-your-skin/