5 วัดสุด Unseen ในเมืองไทยที่ควรต้องลองไปสักครั้ง!

0
1842

เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ จึงเกิดการสร้างวัดขึ้นมามากมายจนนับไม่ถ้วน หลายที่นั้นเพียบพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลมาเยี่ยมชมแบบไม่ขาดสาย วันนี้ทางเราจึงจะขออาสานำเที่ยววัดแปลกสุด Unseen ในเมืองไทย ที่คุณควรลองไปสักครั้ง!

 

1.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม 

ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org

วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือพระเจดีย์องค์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครปฐม และเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในเจดีย์ว่ากันว่าเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ จึงเป็น 1 ในพุทธสถานที่ผู้คนหลั่งไหลกันมามาสักการะแบบไม่ขาดสาย นอกจากนี้ ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ให้ผู้คนได้มากราบไหว้พระเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพลิดเพลินไปกับร้านค้าโดยรอบองค์พระเจดีย์

การเดินทางมาวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร : https://goo.gl/maps/72KKMQArhz7z4xBM9

 

2.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/WatPhasornkaew/

วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2547 ตั้งอยู่ ณ บริเวณเนินเขาใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทำบริเวณวัดนี้มีธรรมชาติเป็นภูเขาสูงใหญ่โอบล้อม และบนยอดเขานั้นมีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา มีชาวบ้านหลายคนได้เห็นลูกแก้วลอยอยู่บนฟ้าและลับหายเข้าไปในถ้ำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา ความน่าสนใจของวัดแห่งนี้ คือ เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วที่สร้างเลียนแบบกลีบดอกบัวซ้อนกัน 7 ชั้น ตกแต่งด้วยถ้วยเบญจรงค์ มุก ลูกปัด แก้ว แหวน เงินทอง สิ่งมีค่าต่างๆ ซึ่งมีความละเอียดและวิจิตรงดงามมาก และยังมีมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ สูงถึง 45 เมตร ลักษณะเป็นพระพุทธรูปสีขาวนั่งซ้อนกัน 5 องค์ ไล่ขนาดกันขึ้นไป และเปิดให้คนสามารถเข้าไปภายในพระพุทธรูปได้ด้วย

การเดินทางไปยังวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว : https://goo.gl/maps/B8mmjy53o3Wa3KPVA

 

3.วัดสามพราน จ.นครปฐม

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/WatSampran/


วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ตั้งอยู่ใน ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม เอกลักษณ์สุดตระการตาของวัดแห่งนี้คือตึกสูงสีชมพูที่มีมังกรโอบรัดตัวตึกเอาไว้ หรือที่เรียกกันว่า ‘ตึกมังกรตะกายฟ้า’ ตึกนี้มีความสูง 80 เมตร เปรียบได้กับอายุของพระพุทธเจ้าตอนปรินิพพาน ส่วนภายในตัวตึกมีทั้งหมด 16 ชั้น เปรียบได้กับสวรรค์ชั้นพรหม 16 ชั้นเช่นกัน ในวันธรรมดาสามารถเข้าไปชมภายในตัวตึกได้ถึงชั้นที่ 2 เท่านั้น ส่วนชั้นที่สูงกว่านั้นเป็นพื้นที่สำหรับพระสงฆ์ โดยทางวัดจะเปิดให้ขึ้นไปถึงยอดข้างบน ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น

การเดินทางไปยังวัดสามพราน : https://goo.gl/maps/c1hAJXw163au9GhB7

 

4.วัดร่องเสือเต้น จ.เชียงราย

ที่มาภาพ : https://www.museumthailand.com/th/1236/storytelling/วัดร่องเสือเต้น/

วัดนี้ตั้งอยู่ที่ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมวัดแห่งนี้คงหนีไม่พ้นวิหารของวัดที่สร้างและออกแบบโดยศิลปินพื้นบ้านชาวเชียงราย นายพุทธา กาบแก้ว หรือที่คนรู้จักในนาม ‘สล่านก’ ลูกศิษย์ ‘อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์’ ความโดดเด่นของวิหารนี้คือการเลือกใช้สีฟ้าสดตัดกับสีทอง และหัวราวบันไดรูปพญานาคที่เน้นลักษณะโครงสร้างที่แข็งแรง มีเขี้ยวเล็บแหลมคมดูน่าเกรงขาม แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความอ่อนช้อยในแบบล้านนา ส่วนภายในก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ละลานตาไปด้วยงานจิตรกรรมเกี่ยวกับพุทธประวัติ อวดโฉมลายเส้นอันอ่อนช้อยและสีสันที่สดใส นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ สีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูนจำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ด้วย

การเดินทางไปยังวัดร่องเสือเต้น : https://goo.gl/maps/HVW1uLNnYBKzEtYo9

 

5.วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/jantaram.thasung/?ref=page_internal

วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม ตั้งอยู่ที่ ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่โดยพระราชพรหมยานเถระฯ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ในปี พ.ศ. 2511 จุดเด่นของที่นี่ คือ วิหารแก้ว 100 เมตร ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง และบุษบกอันเป็นที่ตั้งสังขารของหลวงพ่อฤาษีลิงดำซึ่งไม่เน่าไม่เปื่อย ภายในวิหารประดับประดาไปด้วยกระจกโมเสกสีขาวสุดตระการตา ส่วนด้านบนเพดานนั้นประดับด้วยดวงไฟระย้ารวมกว่า 119 ช่อ นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมที่อันโดดเด่นอีกอย่างคือ ปราสาททองคำ ลักษณะคลายคลึงกับโลหะปราสาทที่วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ คือ เป็นอาคาร 3 ชั้น แต่ละชั้นมีการทำซุ้มคูหาทรงปราสาท โดยชั้นที่ 2 และ 3 ประดับด้วยยอดบุษบก และยอดบนสุดทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระยืนขนาด 8 ศอก แต่ลักษณะที่เด่นและต่างออกไปจากโลหะประสาทคือการเลือกใช้ทองคำเปลวติดกระจกประดับไปทั้งตัวปราสาท พร้อมทั้งมีการแกะสลักลวดลายไทยอย่างเต็มพื้นที่ ส่งผลให้ปราสาทแห่งนี้ดูเหลืองอร่ามไปด้วยทองคำเปลว สร้างความตระการตาแก่ผู้พบเห็น และด้วยความศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาแวะเวียนมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

การเดินทางไปยังวัดท่าซุง : https://goo.gl/maps/By3mnzApieFkmpcRA

 

เรื่องโดย -แอดมินเทอร์ควอยซ์- TURQUOISE